Self-Myofascial Release หรือเรียกสั้นๆว่า SMR คือเทคนิควิธีการนวดคลายกล้ามเนื้อด้วยตัวเองที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคุณยังไม่รู้จัก มันคือเทคนิคการกดจุดด้วยตนเองที่สามารถช่วยให้คุณเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย เพิ่มช่วงการเคลื่อนไหว ช่วยรักษาอาการเจ็บปวดเรื้อรัง เช่น ปวดหลัง ปวดไหล่ และยังช่วยฟื้นฟูอาการปวดกล้ามเนื้อภายหลังการออกกำลังกายได้อีกด้วย
สมัยก่อนเทคนิคนี้ทำกันเฉพาะในทางการแพทย์โดยนักกายภาพบำบัดเฉพาะทางเท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ทำ SMR ได้ด้วยตนเอง ทำให้ราคาต่ำพอที่คนทั่วไปจะซื้อหามาใช้ได้ ฟิตเนสหลายๆแห่งก็เริ่มเห็นประโยชน์ เราจึงเห็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำ SMR เช่น Foam Roller หรือ Massage Ball ตามฟิตเนสมากขึ้นเรื่อยๆครับ
แต่ถึงแม้จะเริ่มเห็นหลายๆคนหันมาสนใจในการทำ SMR มากขึ้น หลายคนยังงงอยู่ว่ามันทำยังไงกันแน่ มีอุปกรณ์กี่อย่าง แค่เอาโฟมมานั่งทับแล้วโยกแค่นั้นหรือ หรือมีอะไรมากกว่านั้น? วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันครับ
ก่อนที่จะพูดถึงการทำ SMR เราจำเป็นจะต้องเข้าใจถึงระบบพังผืดใต้ผิวหนังของมนุษย์เสียก่อน เพราะ SMR เป็นเทคนิคที่ทำงานโดยตรงกับระบบนี้ครับ
ในมัดกล้ามเนื้อแต่ละมัดในตัวของเรานั้นมีพังผืด หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Fascia ห่อหุ้มครับ มันเปรียบเสมือนเป็นใยเหนียวๆยึดกล้ามเนื้อเข้าด้วยกัน คนเรานั้นมี Fascia ห่อหุ้มร่างกายทั่วทั้งร่างกาย ลองนึกถึงเนื้อวัวที่ยังไม่ได้หั่นตามโลตัสน่ะครับ Fascia ก็คือเยื่อขาวๆ สีออกเงินๆ ที่หุ้มส่วนเนื้ออยู่ หรือเวลาซื้ออกไก่มาทำอาหาร ไอ่ส่วนที่มันเป็นแผ่นลื่นๆ บางๆขาวๆ คลุมเนื้ออยู่นั่นแหละครับ
Fascia มีส่วนประกอบคือคอลาเจนเป็นส่วนมาก ปกติแล้วมันจะจัดเรียงตัวกันเป็นแนวขนานไปในทางเดียวกันกับแนวแรงที่ดึงมันครับ เมื่อจัดเรียงตัวในแนวนี้ คุณสมบัติของมันจะมีความยืดหยุ่นสูง แต่ถ้าบริเวณไหนที่เราเคยเกิดอาการบาดเจ็บมาก่อน หรือเราใช้กล้ามเนื้อใดซ้ำๆ หรือผิดวิธีจนเกิดความเครียดที่กล้ามเนื้อมากๆ เจ้า Fascia จะถูกสร้างมาหุ้มมากกว่าเดิม แต่ทีนี้มันจะไม่จัดเรียงตัวแบบสวยงามแล้ว มันจะจัดเรียงตัวเป็นแบบมั่วๆเลยครับ เราเรียกมันว่า scar tissue ร่างกายทำอย่างนี้เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับส่วนนั้นๆ (เนื่องจากกล้ามเนื้ออ่อนแอเพราะบาดเจ็บหรือทำงานหนัก พังผืดจึงถูกสร้างด้วยความหนาแน่นมากกว่าปกติเพื่อยึดเสริมความแข็งแรง)
การจัดเรียงตัวกันอย่างหนาแน่นแบบนี้ถึงแม้จะทำให้บริเวณนั้นแข็งแรงขึ้น แต่มีปัญหาใหญ่ที่ตามมา นั่นคือความยืดหยุ่นนั่นเองครับ กล้ามเนื้อในบริเวณนั้นจะเคลื่อนไหวได้ในมุมที่จำกัดลง ซึ่งถ้าเราไม่ยืดไม่คลายมันออก การเคลื่อนไหวส่วนนั้นจะจำกัดมากขึ้นเรื่อยๆ จนเราต้องใช้กล้ามเนื้ออื่นๆมาทดแทน ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อส่วนอื่นๆต้องรับภาระหนักขึ้น และเมื่อมันทำงานหนักมากๆร่างกายก็จะสร้าง Fascia มาหุ้มส่วนนั้นอีก เป็นอย่างนี้วนไปเรื่อยๆ เราจึงจำเป็นจะต้องรักษามันตั้งแต่เนิ่นๆ โดยการ Stretching และการทำ SMR เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยได้
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากที่ SMR ช่วยแก้ไขได้ คือปมในใยกล้ามเนื้อ หรือ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Knot ครับ
กล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานหนักมากกว่าปกติ หรือ ถูกใช้งานผิดวิธี จะมีโอกาสเกิดปมขมวดในชั้นใยกล้ามเนื้อได้ เจ้าปมนี้คือกล้ามเนื้อที่หดแล้วไม่ยอมคืนตัว มันจะเป็นก้อนๆ ทำให้เลือดไหวเวียนไม่สะดวก ทำให้ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อลงลง และจะเกิดการเจ็บเวลากด มันคือจุดที่เวลาเราไปนวดแล้วหมอนวดกดแล้วเราเจ็บนั่นแหละ หลายๆคนมี Knot ใหญ่มากจนคลำได้เป็นลูกๆ เจ้าปมนี้ในคนส่วนมากจะเกิดที่บริเวณหลังด้านบน, คอ, ไหล่, ก้น, ต้นขาด้านข้าง เป็นต้น
การยืด (Stretching) ไม่สามารถทำให้ปมนี้หายไปได้ (เหมือนกับการดึงปลายเชือกที่มีปมขมวดอยู่ ปมจะไม่คลาย แถมยังแน่นขึ้นไปอีก) แต่ข่าวดีคือเราสามารถคลาย Knot หรือปมเจ้าปัญหานี้ได้ด้วยการกดมันครับ ทางการแพทย์ค้นพบว่าการกดและคลึงที่บริเวณที่มีปมด้วยแรงที่พอดีและเป็นเวลานานพอจะทำให้ปมนี้ค่อยๆคลายลง
วิธีที่ดีที่สุดในการคลาย Knot คือการนวดที่เรียกว่า Deep Tissue Massage โดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญการนวดแบบนี้ผู้นวดจะใช้นิ้วคลึงและกดลงบริเวณปมจนปมนั้นคลายตัว ข้อเสียของวิธีนี้คือผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้ยังไม่มากในบ้านเราครับ ถ้ามีบ้างก็จะเป็นหมอนวดแผนไทยที่มีประสบการณ์สูงๆไปเลยมากกว่า (ไม่ใช่หมอนวดทุกคนจะนวดแบบ Deep Tissue ได้ดี) แถมเจ้า Knot ที่แข็งมากๆก็จะไม่หายไปในการนวดในครั้งเดียวด้วย และควรจะต้องทำเป็นประจำเพื่อไม่ให้มันกลับมาใหม่ ทำให้การรักษายืดเยื้อและค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพง
อีกวิธีหนึ่งที่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่สามารถหาผู้ที่นวดแบบ Deep Tissue ได้ และเป็นวิธีที่ประหยัดเงินในกระเป๋ากว่ามาก คือการทำ SMR หรือการคลายกล้ามเนื้อด้วยตนเองที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้ครับ
Self-Myofascial Release หรือเรียกสั้นๆว่า SMR คือเทคนิควิธีการนวดคลายกล้ามเนื้อด้วยตัวเอง สามารถทำได้โดยใช้หลักการเดียวกับการทำ Deep Tissue Massage คือกดไปยังจุดที่เกิด Knot ในร่างกายให้เป็นเวลานานพอ (ประมาณ 1 นาที) หรือจนกว่าอาการเจ็บจะหายไป การออกแรงกดและคลึงไปยังจุดที่มี Knot ทำให้ปมนั้นค่อยๆคลายตัวได้ครับ แต่เนื่องจากบางจุดโดยเฉพาะด้านหลัง เราจะกดได้ลำบาก จึงมีผู้คิดค้นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราสามารถทำเองได้ง่ายขึ้นโดยใช้น้ำหนักของตัวเองช่วย
รูปแสดงอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ SMR
อุปกรณ์หน้าตาประหลาดชิ้นนี้มาในหลายรูปทรงและขนาด แต่หลักๆจะเป็นแท่งทรงกระบอกกลม มีผิวสัมผัสเป็นโฟมนุ่ม Foam Roller เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานในการทำ SMR ได้หลากหลายที่สุด สามารถใช้กับกล้ามเนื้อได้เกือบทั่วทั้งตัว เพราะวิธีใช้งานที่ง่ายดายของมัน นั่นคือ ใช้น้ำหนักตัวของเรากดและคลึงแท่งโฟมนี้ให้ลงไปที่จุด knot ในร่างกาย ด้วยผิวสัมผัสของ Foam Roller ที่นุ่มคล้ายผิวหนัง ทำให้มันเหมือนกับการถูกนวดครับ แต่เป็นการนวดที่เรารู้จุดกดเจ็บของเรา เรารู้ว่าจะต้องใช้แรงกดเท่าไรที่เราสามารถทนได้ สำหรับการกดโดยปกติก็จะกดค้างไว้ประมาณ 1 นาทีหรือจนหายเจ็บ วิธีใช้งานอีกแบบคือการคลึงมันไปตามแนวกล้ามเนื้อที่ก็ได้เช่นกัน
Foam Roller มีหลายแบบครับ แบบที่เป็นแท่งยาวๆเป็นโฟมเฉยๆ แบบที่เป็นแท่งกลวงมีตะปุ่มตะป่ำบนผิวสัมผัส อีกทั้งยังมีหลายขนาด ตั้งแต่เล็กๆอย่าง 6 นิ้วจนถึงเป็นเมตรก็มี ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวและจากลูกค้าที่มาเทรนกับผม ได้ข้อสรุปว่า Foam Roller ที่คนส่วนมากใช้แล้วชอบที่สุดคือแบบท่อกลวง ยาว 1 ฟุต แกนกลางเป็น PVC มีผิวโฟมหุ้มเป็นปุ่มๆไม่เรียบครับ เนื่องจากขนาดที่ไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไป แถมยังพกพาสะดวก
Foam Roller ที่ดังๆก็เช่น แบรนด์ TriggerPoint, Rumbleroller ราคาถ้าสั่งจากอเมซอนเข้าไทยรวมขนส่งและภาษีประมาณ 2,700-3,000 บาท ส่วน Foam Roller ของโรงงานที่ไม่มีแบรนด์ตกอยู่ที่ 900-1200 บาท ซึ่งจากการใช้งานจริงแล้วผมไม่เห็นข้อแตกต่างมากนัก ยกเว้นของแบรนด์เนมจะลายสวยกว่าและสีสวยกว่า ส่วนผิวสัมผัสและโฟมของแบรนด์เนมจะแข็งกว่านิดนึงครับ
Foam Roller แบบท่อกลวงนี้ยังไม่ค่อยมีขายในไทย ส่วนใหญ่ที่มีจะเป็นแบบแท่งโฟมเฉยๆซึ่งไม่ดีเพราะมันไม่มีแกนใช้ไปนานๆจะยุบ ส่วนแบบท่อกลวงมีแกนพลาสติก ยืนเหยียบก็ไม่ยุบครับ แข็งมาก เมื่อก่อนถ้าคนที่มาเทรนกับผมอยากได้ ผมก็จะสั่งจากเมืองนอกมาให้เป็นครั้งๆไป หลังๆพอเริ่มมีคนอยากได้มากขึ้นเรื่อยๆก็เลยสั่งเป็นล็อต 10-20 อัน แล้วเอามาแบ่งๆกันไป ถ้าคุณผู้อ่านสนใจจะสั่งซื้อสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ รายละเอียดสินค้า Foam Roller
เจ้าลูกบอลที่หาซื้อได้ทั่วไปพวกนี้แหละได้ผลดีเชียวครับ ถึงแม้ Foam Roller จะครอบคลุมและใช้ได้กับเกือบทุกส่วนในร่างกาย แต่จะมี Knot บางที่ที่เป็นจุดเฉพาะที่กดได้ยาก และต้องการแรงที่รวมเป็นจุดเล็กๆจุดเดียว จุดพวกนี้เช่น จุดตรงบริเวณขอบก้น , บริเวณสะโพก, สะบักด้านหลัง วิธีทำก็เหมือนกันครับ นอนทับลูกบอลพวกนี้ตรงจุดที่มี Knot แล้วกดค้างไว้สัก 1 นาที หรือจนกว่าจะหายเจ็บจึงคลาย
ถ้าคุณมีจุดที่เมื่อย จุดที่เวลาไปนวดแล้วหมอนวดกดแล้วมันรู้สึกเจ็บจี๊ดแต่พอนวดแล้วรู้สึกโคตรดี นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณมี Knot แล้วครับ หรือถ้าคุณเคยได้รับอุบัติเหตุ เคยเข้ารับการผ่าตัด หรือ อยู่ในท่าเดิมนานๆในแต่ละวัน เช่น นั่งทำงานทั้งวัน ยืนทำงานทั้งวัน ก็จะมีแนวโน้มสูงว่าในกล้ามเนื้อบางส่วนของคุณที่ถูกใช้งานหนักและซ้ำๆจะเกิดปมขึ้น ซึ่งโดยชีวิตของพวกเราในยุคปัจจุบันนี้ ผมกล้าพูดได้เลยว่า คนมากกว่า 90% ควรที่จะทำ SMR เป็นประจำทุกวัน (เราสร้างความเครียดให้กล้ามเนื้อทุกวัน ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลที่เราต้องแก้ความเครียดนั้นทุกวันเช่นกัน) อย่างไรก็ตาม กฎทุกกฎมีข้อยกเว้น SMR ไม่ได้เป็นวิธีแนะนำสำหรับทุกคนครับ ถ้าคุณมีภาวะกระดูกพรุน, เป็นโรคความดัน, หรือกำลังตั้งครรภ์ ให้ระวังหรืองดเว้นการทำ SMR เนื่องจากอาจทำให้เกิดกระดูกหัก, หน้ามืดได้ครับ
Self-Myofascial Release หรือเรียกสั้นๆว่า SMR เป็นวิธีการนวดตัวเองโดยเน้นการกดคลึงไปยัง Knot หรือก้อนในใยกล้ามเนื้อและปมพังผืดในร่างกาย ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บในสมัยก่อนหรือการใช้งานร่างกายอย่างซ้ำๆหรือผิดวิธี Knot และ พังผืดที่เกิดขึ้นทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ในมุมที่จำกัดลง ทำให้เกิดการเจ็บปวด และอาจทำให้เกิดการไม่สมดุลของกล้ามเนื้อได้ ซึ่งเราสามารถทำให้คลายลงได้ด้วยการไปนวด Deep Tissue Massage หรือทำ SMR นวดตัวเองโดยใช้อุปกรณ์เช่น Foam Roller หรือลูกบอลช่วยกดคลึงลงบริเวณปมเป็นเวลา 45 วินาที – 1 นาที หรือจนกว่าจะหายเจ็บ การทำ SMR ควรจะทำในทุกๆวัน เพราะเราสร้างความเครียดให้กล้ามเนื้อในทุกๆวันเช่นกัน นอกจากประโยชน์ในการทำ SMR ยังมีเพิ่มเติมอีก เช่น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตให้ดีขึ้น, เพิ่มช่วงการเคลื่อนไหว, และช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกายได้ดีอีกด้วย