อุปกรณ์ | คุณสมบัติ | ราคา |
---|---|---|
ยางยืดสีแดง |
ให้แรงต้าน 15-35 ปอนด์ [หน้ากว้าง 1.3 cm] |
350 บาท |
ยางยืดสีดำ |
ให้แรงต้าน 20-70 ปอนด์ [หน้ากว้าง 2.1 cm] |
450 บาท |
ยางยืดสีม่วง |
ให้แรงต้าน 35-85 ปอนด์ [หน้ากว้าง 3.2 cm] |
550 บาท |
ยางยืดสีเขียว |
ให้แรงต้าน 50-125 ปอนด์ [หน้ากว้าง 4.5 cm] |
750 บาท |
ยางยืดสีน้ำเงิน |
ให้แรงต้าน 65-175 ปอนด์ [หน้ากว้าง 6.4 cm] |
850 บาท |
ยางยืดสีส้ม |
ให้แรงต้าน 85-230 ปอนด์ [หน้ากว้าง 8.3 cm] |
990 บาท |
โดยทั่วไปถ้าเราพูดถึงการเล่นเวทหรือการฝึกกล้ามเนื้อ ส่วนใหญ่แล้วพวกเราจะชินกับการใช้แรงต้านที่อยู่ในรูปของลูกน้ำหนักดัมเบลหรือแมชชีน ซึ่งจะใช้แรงโน้มถ่วงของโลกในการสร้างแรงต้านให้กับกล้ามเนื้อ แต่มีอุปกรณ์อีกชนิดนึงที่ไม่ได้ใช้แรงโน้มถ่วงของโลกแต่ใช้แรงจากการตึงตัวของเส้นยาง เราเรียกอุปกรณ์ฟิตเนสชนิดนี้ว่า Resistance Band หรือ ยางยืดออกกำลังกายครับ
Resistance Band เป็นอุปกรณ์ฟิตเนสที่มีน้ำหนักเบา สามารถใช้แทนดัมเบลได้ เป็นอุปกรณ์ที่เมื่อเล่นควบคู่กับการทำคาร์ดิโอสามารถใช้เบิร์นไขมันได้ดี Resistance Band สามารถใช้เล่นกล้ามเนื้อได้ทั่วทั้งตัวและเล่นได้หลากหลายท่า ใช้พื้นที่น้อย ไม่ต้องเสียเวลาติดตั้งอุปกรณ์ และพกพาสะดวก
Resistance Band แบบ Loop มีลักษณะเป็นวงกลม ดังนั้นจึงเล่นได้โดยไม่ต้องติดอุปกรณ์มือจับเพิ่มเติมเหมือนแบบสายเส้นเดี่ยว ยางยืดแบบวงกลมจึงมีความสะดวกในการพกพามากกว่า หยิบมาแล้วเล่นได้เลย ไม่ต้องประกอบใดๆทั้งสิ้น ท่าออกกำลังกายที่สามารถทำได้ของยางยืดแบบวงกลมเหมือนกับ Resistance Band แบบมือจับเกือบทั้งหมด อาจจะมีบางท่าที่ความรู้สึกในการเล่นแตกต่างกัน แต่เรียกใช้งานกล้ามเนื้อโดยรวมเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ยางยืดวงกลมจะใช้ได้เลยโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมใดๆ แต่มีอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการเล่นของมันได้อย่างมาก นั่นคือตัวยึดมันกับผนัง เพราะ ยางยืดวงกลมจะแสดงศักยภาพได้สูงสุดเมื่อเรายึดด้านหนึ่งของมันไว้ให้อยู่กับที่ครับ
การทำงานของ Resistance Band คือแรงต้านจะมากขึ้นเมื่อสายยาวขึ้น และเนื่องจาก Resistance Band แบบ Loop มีขนาดค่อนข้างยาวและเหนียว ดังนั้นการที่ใช้ขาเหยียบแล้วดึงแบบทั่วไปอาจทำให้ยางยืดได้ไม่เยอะ ทำให้แรงต้านมีนิดเดียว การผูกยางยืดกับเสาหรือหลักยึดจะทำให้เราสามารถก้าวถอยหลังออกมาเพื่อดึงยางให้ยืดออกได้ตามที่ต้องการ และเนื่องจากเนื้อยางที่เหนียวทำให้เราสามารถก้าวออกมาได้ค่อนข้างไกล แรงต้านของ Resistance Band แบบวงกลมจึงมีช่วงที่กว้าง เช่นสายสีดำ สามารถให้แรงต้านได้ตั้งแต่ 20 จนถึง 70 ปอนด์เมื่อถูกดึงให้ยาวขึ้นเลยทีเดียว
และด้วยลักษณะที่เส้นยางยืดแบบวงเป็นแบบเส้นแบน ทำให้มันมีความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่พิเศษกว่ายางยืดชนิดอื่นๆ คือสามารถเอาไว้ใช้ยืดกล้ามเนื้อหรือ stretching ได้ดีกว่ายางยืดชนิดอื่น โดยตัวอย่างการออกกำลังกายแบบเวทและการยืดกล้ามเนื้อโดยใช้ยางยืดแบบวงกลมมีดังต่อไปนี้
สิ่งหนึ่งที่ยางยืดแบบวงกลมที่ได้เปรียบยางยืดชนิดอื่นคือมันใช้ควบคู่กับการยืดกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดีครับ ยางที่ยืดได้ช่วยให้เราสามารถ stretching ในช่วงการเคลื่อนไหวที่มากขึ้น และด้วยลักษณะที่เป็นวงกลมทำให้เอามือและขาสอดเข้าไปได้ง่าย อีกทั้งเส้นที่มีลักษณะแบนทำให้การยืดกล้ามเนื้อโดยใช้ Loop Band ทำได้ดีและถนัดเป็นพิเศษ ตัวอย่างท่า Stretching มีดังต่อไปนี้
ยางยืดทั้งสองแบบจริงๆแล้วใช้งานได้แทบจะเหมือนกัน ท่าออกกำลังกายเกือบทุกท่ามีท่าแทนกันได้ทั้งหมด จะมีเพียงรายละเอียดท่าทางการจับยางยืด และความยากง่ายของท่าต่างๆ ที่ต่างกันเล็กน้อย ยางยืดทั้งคู่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเน้นเอาไปใช้ทำอะไร และเนื่องจากในเวบผมขายทั้งสองแบบ จึงมีหลายคนถามมาว่าจะซื้อแบบไหนดี ข้างล่างเป็นตารางเปรียบเทียบว่าคุณเหมาะกับแบบไหนครับ
การใช้งาน | แบบ Loop | แบบปรับน้ำหนัก |
---|---|---|
มีอุปกรณ์ออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว ถ้าคุณไม่มีอุปกรณ์อื่นๆเช่นดัมเบลหรือบาร์เบล Resistance Band แบบปรับน้ำหนักได้เป็นทางเลือกที่ดี เพราะกล้ามเนื้อแต่ละส่วนแข็งแรงไม่เท่ากัน เวลาต้องการออกกำลังกายขา (ซึ่งแข็งแรงกว่าแขน) ก็จะสามารถเพิ่มน้ำหนักให้เหมาะสมได้ |
||
มีพื้นที่ออกกำลังกายน้อย ยางยืดแบบวงกลมต้องการพื้นที่ในการใช้งานมากกว่าแบบปรับน้ำหนัก โดยเฉพาะถ้าต้องการใช้ประโยชน์จากยางแบบลูปมากที่สุดซึ่งจะต้องผูกด้านหนึ่งไว้กับเสายึด ทำให้สายยางยืดที่ถูกดึงยาวกว่า |
||
ใช้ยืดกล้ามเนื้อร่วมด้วย ถ้าตัวคุณไม่มีความยืดหยุ่น มีปัญหาปวดหลัง ปวดคอ ปวดบ่า พักเรื่องลดน้ำหนักไปก่อนครับ ความยืดหยุ่นของร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญกว่ามาก กล้ามเนื้อที่ไม่สมดุลจากการทำกิจกรรมซ้ำๆนานๆเช่นนั่งทำงานวันละ 10 ชั่วโมงทำให้ร่างกายทำงานไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น การ Stretching จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และยางยืดแบบวงกลมนี้ช่วยทำให้การ stretching หลากหลายขึ้นมากครับ ** ยางยืดแบบปรับน้ำหนักได้ก็ใช้ยืดกล้ามเนื้อได้เช่นกัน แต่ด้วยลักษณะของยางยืดที่เป็นเส้นทรงกลมอาจจะลื่นกว่ายางยืดแบบ Loop ที่สายยางจะเป็นทรงแบน |
||
ชอบออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง / ทำตามวิดิโอ เนื่องจากยางยืดแบบลูปไม่ต้องใส่มือจับและที่รัดเท้า มันจึงสามารถเปลี่ยนท่าจากขาไปแขนได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเซตอุปกรณ์ใหม่ทำให้การออกกำลังกายเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ถ้าคุณต้องการให้ Heart Rate อยู่ในระดับสูงตลอดเวลา หรือ ออกกำลังกายตามวิดิโอ ยางยืดแบบนี้น่าจะเหมาะกับคุณครับ |
||
มีที่ให้ยึดยางยืด การใช้งาน Resistance Band แบบ Loop จะหลากหลายขึ้นหลายเท่าตัว ถ้าคุณหาที่ยึดปลายด้านหนึ่งของมันไว้ได้ |
อุปกรณ์ | คุณสมบัติ | ราคา |
---|---|---|
ยางยืดสีแดง |
ให้แรงต้าน 15-35 ปอนด์ [หน้ากว้าง 1.3 cm] |
350 บาท |
ยางยืดสีดำ |
ให้แรงต้าน 20-70 ปอนด์ [หน้ากว้าง 2.1 cm] |
450 บาท |
ยางยืดสีม่วง |
ให้แรงต้าน 35-85 ปอนด์ [หน้ากว้าง 3.2 cm] |
550 บาท |
ยางยืดสีเขียว |
ให้แรงต้าน 50-125 ปอนด์ [หน้ากว้าง 4.5 cm] |
750 บาท |
ยางยืดสีน้ำเงิน |
ให้แรงต้าน 65-175 ปอนด์ [หน้ากว้าง 6.4 cm] |
850 บาท |
ยางยืดสีส้ม |
ให้แรงต้าน 85-230 ปอนด์ [หน้ากว้าง 8.3 cm] |
990 บาท |
หมายเลขบัญชี | ธนาคาร | ชื่อบัญชี |
---|---|---|
504-0-712530 | ธนาคารกรุงเทพ สาขาสุเทพ เชียงใหม่ | นาย ชลวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ |
016-7-146315 | ธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน 2 | นาย ชลวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ |
357-267806-0 | ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน | นาย ชลวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ |
726-2-35555-8 | ธนาคารกสิกรไทย สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน | นาย ชลวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ |